หรือ ปริกน้ำค้าง เป็นพืชในวงศ์ Asparagaceae เป็นไม้คลุมดิน ใบจริงลดรูปลงเป็นหนาม ส่วนที่สีเขียวคล้ายใบรูปเข็มเป็นลำต้นที่มีสีเขียว แตกกิ่งเป็นพุ่มห้อยลง ดอกสีขาว ขนาดเล็ก ผลเมื่อสุกสีแดง เป็นพืชพื้นเมืองของแอฟริกาใต้
ปริกเป็นพืชที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีความสวยงาม ดูแลรักษาง่าย ทนแล้ง ทนแดด ชอบแสงแดดรำไร รดน้ำวันละครั้งหรือสองครั้ง ปุ๋ยควรให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกปีละครั้ง
ปริกสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางหรือลงดิน การปลูกในกระถางควรใช้กระถางขนาด 10-12 นิ้ว ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี การปลูกลงดินควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดรำไร ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี
ปริกเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่าย สามารถขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่งหรือแยกกอ การปักชำกิ่งควรใช้กิ่งอ่อนที่มีอายุ 1-2 เดือน ตัดกิ่งยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ปักชำในดินร่วนซุย ระบายน้ำดี รดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 1-2 สัปดาห์ กิ่งจะออกรากและเจริญเติบโตได้
ปริกเป็นพืชที่มีประโยชน์หลายอย่าง สามารถใช้เป็นอาหาร ใช้เป็นยารักษาโรค ใช้เป็นไม้ประดับ ปริกเป็นพืชที่มีประโยชน์และสวยงาม เหมาะสำหรับปลูกไว้ในบ้านหรือสวน นอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านหรือสวนแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมายอีกด้วย
-ประโยชน์ของปริก-
* ใช้เป็นอาหาร: ปริกสามารถรับประทานได้ นิยมนำมาประกอบอาหารหลายชนิด เช่น แกงจืด แกงพะแนง แกงเผ็ด เป็นต้น
* ใช้เป็นยารักษาโรค: ปริกมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง เช่น แก้ปวด แก้อักเสบ แก้ท้องเสีย แก้อาเจียน เป็นต้น
* ใช้เป็นไม้ประดับ: ปริกเป็นไม้ประดับที่สวยงาม นิยมปลูกไว้ในบ้านหรือสวน จะช่วยเพิ่มสีสันและความสดชื่นให้กับบ้านหรือสวน
วิธีการปลูกปริก
* การปลูกในกระถาง: เลือกกระถางขนาด 10-12 นิ้ว ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกลงในกระถางเล็กน้อย วางกิ่งปริกที่ชำไว้ลงในกระถาง รดน้ำให้ชุ่ม
* การปลูกลงดิน: เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร ดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ขุดหลุมลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกลงในหลุมเล็กน้อย วางกิ่งปริกที่ชำไว้ลงในหลุม กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
ปริกเป็นพืชที่ดูแลรักษาง่าย ทนแล้ง ทนแดด รดน้ำวันละครั้งหรือสองครั้ง ปุ๋ยควรให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกปีละครั้ง ปริกจะเจริญเติบโตได้ดีและออกดอกสวยงาม