ชะพลู มักมีการจำสับสนกับพลูทั้งที่เป็นคนละชนิดกัน ซึ่งใบจะรสไม่จัดเท่ากับพลูและยังมีขนาดเล็กกว่า ชะพลู เป็นพืชในวงศ์ Piperaceae ชะพลูเป็นพันธุ์ไม้ชอบพื้นที่ลุ่ม มีความชื้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำโดยการเลือกที่มีใบอ่อนและใบแก่ เด็ดใบแก่ออกและนำไปปักชำได้
สรรพคุณของชะพลู ได้แก่
– ช่วยบำรุงธาตุ
– ขับลม
– แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ
– ช่วยในการขับเสมหะ
ประโยชน์ของชะพลู
1.(ใบ)ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
2.(ใบ)ชะพลูมีรสเผ็ดร้อน ช่วยทำให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น
3.(ใบ)ชะพลูมีเยต้าแคโรทีนในปริมาณมากซึ่งช่วยบำรุงและรักษาสายตาช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคืน แก้โรคตาฟาง เป็นต้น
4.(ใบ)ช่วยยับยั้งและชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
5.(ทั้งต้น)ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้ชะพลูทั้งต้นประมาณ 7 ต้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่น้ำให้พอท่วม แล้วต้มให้เดือดสักพัก แล้วนำมาดื่มเป็นชา
6.(ราก)ช่วยบำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ
7.(ใบ)ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
8.(ดอก ราก) ช่วยทำให้เสมหะงวดและแห้ง
9.( ใบ ราก ต้น) ช่วยในการขับเสมหะบริเวณทรวงอก ลำคอ
10.( ราก) ช่วยในการขับเสมหะทางอุจจาระ
11.(ใบ)ช่วยในการขับถ่าย เนื่องจากมีเส้นใยในปริมาณมาก
12.( ราก) ช่วยแก้อาการบิด ด้วยการใช้รากประมาณครึ่งกำมือ ใช้ผลประมาณ 3 หยิบมือ นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือ 1 ถ้วยแก้ว แล้วนำมาดื่มครั้งละ 1 ส่วน4ถ้วยแก้ว
13.(ราก ทั้งต้น)ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้องด้วยการใช้รากประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้วเคี่ยวจนเหลือ 3 ใน 4 ถ้วยแก้วแล้วรับประทานครั้งละ 1 ส่วย 4 ถ้วยแก้ว
14.(ดอก ราก)ช่วยขับลมในลำไส้ ด้วยการใช้รากประมาณ 1 กำมือนำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือ3 ใน4 ถ้วยแก้ว แล้วรับประทานครั้งละ 1 ส่วน 4 ถ้วยแก้ว
15.(ราก)ชะพลูเป็นหนึ่งในส่วนผสมของตำรับสมุนไพรพิกัดยาตรีสารซึ่งช่วยบำรุงธาตุ บำรุงโลหิตแก้คูถเสมหะ
16. เมนูใบชะพลู ได้แก่ แกงคั่วไก่ใบชะพลู แกงคั่วหอยขมใยชะพลู หมูห่อใบชะพลู ไข่น้ำใบชะพลู ยำตะไคร้ใบชะพลู เมี่ยงปลาเผาใบชะพลู ผัดป่าใบชะพลู แกงอ่อมใบชะพลู ยำปลาทูใบชะพลู เป็นต้น
ประโยชน์ของชะพลูในด้านของสุขภาพ คือ มีวิตามินเอและธาตุแคลเซียมในปริมาณสูงเป็นพิเศษและยังมีธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส คลอโรฟิลล์เส้นใยอีกด้วยซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายแทบทั้งสิ้น แต่หากรับประทานในปริมาณมากหรือติดต่อกันเป็นเวลานานแคลเซียมที่มีอยู่ในใบชะพลูจะเปลี่ยนเป็นแคลเซียมออกซาเลต(Oxalate)ซึ่งสารชนิดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนิ่วในไตได้ ดังนั้น คุณจึงควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อให้สารออกซาเลตเจือจางลงและถูกขับออกทางปัสสาวะ หรือจะเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงๆเพื่อป้องกันโรคนิ่วก็ทำได้เหมือนกัน เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดคุณควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม