ขิงเป็นพืชล้มลุกมีเหง้าใต้ดินแตกแขนงคล้ายนิ้วมือเปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีเหลืองนวลมีกลิ่นเฉพาะตัว โดยมีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน เรียกแง่งขิงหรือหัวขิง เป็นส่วนที่นำมาบริโภคและใช้ประโยชน์มากที่สุด นิยมใช้แต่งกลิ่นอาหารและทำเป็นเครื่องดื่ม เพราะนอกจากช่วยชูรสชาติ ยังมีสรรพคุณมากมายเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน เหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต
ขิงที่เพาะปลูกในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือขิงใหญ่หรือขิงหยวก ใช้สำหรับรับประทานสดและขิงเล็กหรือขิงเผ็ด ใช้สำหรับการแปรรูป เช่น สารสกัดจากขิง ขิงผง การปลูกขิงนิยมปลูกในช่วงต้นฝนคือในระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม สภาพพื้นที่เหมาะสมคือมีดินร่วนปนทราย
ขิง มีสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืด บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียนและมีน้ำมันหอมระเหยที่มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ในขิงยังมีส่วนประกอบของน้ำมันที่กระตุ้นและเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตบนหนังศรีษะ ทำให้รากผมแข็งแรงลดการหลุดร่วง ช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมที่ผ่านการทำเคมี มีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียที่รากผม เรียกว่าเป็นสมุนไพรที่หาง่ายและมีประโยชน์อย่างล้นหลามไม่แพ้สมุนไพรชนิดอื่นเลยค่ะ