กาสะลอง… ที่บ้านเรียกดอกก้านของ

2498

ต้นปีบ มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆเช่น เต็กตองโพ่(กะเหรี่ยงกาญจนบุรีล) กาซะลอง, กาสะลอง กาดสะลอง หรือกาสะลองคำ (ภาคเหนือ), ปีบ ก้องกลางดง (ภาคกลาง) กางของ(ภาคอีสาน) เป็นต้น

ลักษณะของปีบ

ต้นปีบเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลำต้นตรง สูงประมาณ 5ถึง10 เมตร เปลือกต้นเป็นสีเทาเข้มเป็นร่องลึก มีช่องอากาศ รากเกิดเป็นหน่อ เจริญเป็นต้นใหม่ได้ ขยายพันธุ์โดยการนำเมล็ดมาเพาะ หรือใช้ต้นอ่อนที่เกิดจากรากของต้นแม่ นำมาตัดเป็นท่อนสั้นๆ แล้วนำมาปักชำด้วยกระบะกรวย ที่ผสมด้วยขี่เถ้าแกลบก็ได้ ปีบเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองของพม่าและไทยที่ขึ้นอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปตามป่าเบญจพรรณและป่าดงดิบแล้งทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ใบปีบ

– ลักษณะของใบมีใบประกอบแบบขนนก 3ชั้น มีความกว้างประมาณ 13-20 ซ.ม ยาวประมาณ 16-26 ซ.ม ก้านใบยาว 3.5-6 ซ.ม ที่ตัวใบจะประกอบไปด้วยแกนกลางยาวประมาณ 13-19 ซ.ม มีใบย่อย 4-6 คู่ กว้างประมาณ 2.5-3 ซ.ม และยาวประมาณ 4-5 ซ.ม ลักษณะใบมีรูปคล้ายหอกแกมไข่ปลายใบเรียวแหลม ฐานใบเป็นรูปลิ่ม ขอบใบหยักเป็นซี่หยาบๆ เนื้อใบเกลี้ยงบางคล้ายกระดาษ

ดอกปีบ

– ลักษณะของเป็นช่อกระจุกแยกแขนง มีความยาวประมาณ 10-25 ซ.ม ดอกย่อยประกอบไปด้วยกลีบเลี้ยงสีเขียว ดอกมีกลิ่นหอม มีความกว้างประมาณ 0.5ซ.ม และยาวประมาณ 6-10 ซ.ม เชื่อมกันเป็นหลอดปากแตร แยกออกเป็น 5 แฉก 3 แฉกรูปขอบขนาน 2แฉกบางค่อนข้างแหลม มีเกสรตัวผู้ 4 ก้าน 2คู่จะยาวไม่เท่ากัน และมีเกสรตัวเมีย1ก้าน อยู่เหนือวงกลีบ โดยดอกปีบจะออกดอกในช่วงเดือนพฤษจิกายนจนถึงเดือนพฤษภาคม

สรรพคุณของปีบ

1.ดอกมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง(ดอก)

2.ช่วยบำรุงโลหิต(ดอก)

3.ช่วยบำรุงปอด(ราก)

4.ช่วยรักษาวัณโรค(ราก)

5.ใช้เป็นยารักษาไซนัสอักเสบ(ดอก)

6.ใช้รักษาริดสีดวงจมูก ด้วยการใช้ดอกที่ตากแห้ง นำมามวลเป็นบุหรี่สูบรักษาอาการ(ดอก)

7.ช่วยรักษาอาการหอบหืด หอบเหนื่อย ทำให้ระบบหายใจดียิ่งขึ้นโดยใช้ดอกปีบแห้ง มวลเหมือนบุหรี่ เพื่อรักษาอาการหอบหืดได้(ราก, ดอก)

8.ช่วยรักษาปอดพิการ(ราก)

9.ใช้เป็นยาแก้ลม(ดอก)

10.ใบใช้มวลเป็นบุหรี่สูบแทนฝิ่นเพื่อช่วยขยายหลอดลมและรักษาอาการหอบหืดได้เช่นกัน

ข้อมูลmedthai.com